วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ซัมซุงรุกเปิดตัวโอเอสน้องใหม่'บาดา'





จากความสำเร็จของไอโฟนและ “แอพสโตร์” หรือร้านขายแอพพลิเคชันสำหรับไอโฟนของบริษัทแอปเปิล ทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟท์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา


บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่อันดับสองของโลกจากประเทศเกาหลีใต้ได้เปิดตัว “บาดา” ระบบปฎิบัติการที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้น ระบบปฏิบัติการ “บาดา” (Bada) ซึ่งในภาษาเกาหลีแปลว่ามหาสมุทร จะมาพร้อมกับโปรแกรมตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Sensing) ระบบโฟกัสใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection) โปรแกรมเครือข่ายสังคม ฟังก์ชันเชิงโต้ตอบอื่นๆ รวมถึงโปรแกรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ ซึ่งซัมซุงหวังว่าจะสามารถใช้แข่งขันกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ อย่างเช่นการเล่นเกม อินเตอร์เน็ต หรือฟังเพลงได้ง่าย ผู้ร่วมพัฒนาระบบบาดา ได้แก่ ทวิตเตอร์ บริษัทอีเอ โมบาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทวีดีโอเกม อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ตส์ (อีเอ) และบริษัทเกมลอฟต์ จากประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ซัมซุงยังจัดกิจกรรมให้ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์แข่งขันกันพัฒนาแอพพลิเคชันที่ใช้สำหรับระบบบาดาเพื่อชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกด้วย


โฮซู ลี รองประธานบริหารและหัวหน้าศูนย์มีเดีย โซลูชัน ของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าซัมซุงจะกลายเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์มือถืออย่างแท้จริงโดยมีตัวเลือกของสมาร์ทโฟนให้ผู้บริโภคได้เลือกมากกว่า” พร้อมทั้งกล่าวว่าระบบปฏิบัติการบาดาจะเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันสามารถเผยแพร่แอพพลิเคชันของตัวเองออกสู่โทรศัพท์ของซัมซุงจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีผู้ใช้อยู่ทั่วโลก ซัมซุงจะวางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือหน้าจอระบบสัมผัสที่ใช้ระบบปฏิบัติการบาดาในตลาดโทรศัพท์ราคาปานกลางก่อน จากนั้นจึงเจาะตลาดสมาร์ทโฟนราคาถูก ลีกล่าวว่าบริษัทมีแผนจะวางจำหน่ายโทรศัพท์ระบบบาดาในเอเชียและยุโรปในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 ส่วนในตลาดอื่นๆ จะตามมาทีหลัง แต่ซัมซุงยังไม่ได้กำหนดแผนการและเป้าหมายที่แน่นอน


ซัมซุงจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนโทรศัพท์ระบบบาดาขึ้น แต่จะยังคงใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ อย่างวินโดว์ส โมบาย แอนดรอยด์ และซิมเบียนต่อไป และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเปิดบาดาให้กับบริษัทโทรศัพท์มือถืออื่นใช้หรือไม่


ในช่วงที่ผ่านมา ซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งนีล มอว์สตัน นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย สแทรทิจี อนาไลติกส์ มองว่าเป็นเพราะโทรศัพท์ของซัมซุงมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นที่ดึงดูดใจ มอว์สตันยังเชื่อว่าบาดาจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับซัมซุงในตลาดสมาร์ทโฟนที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว


ข้อมูลจากบริษัทวิจัย การ์ทเนอร์ ระบุว่าส่วนแบ่งตลาดมือถือโลกของซัมซุงในไตรมาสที่สามของปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 17.1% ในปีที่แล้วมาอยู่ที่ 20.7% ขยับเข้ามาใกล้ผู้นำคือ โนเกีย ที่มีส่วนแบ่งตลาดในไตรมาสเดียวกันอยู่ที่ 37.3%


แต่อย่างไรก็ตาม มอว์สตันมองว่าซัมซุงพัฒนาระบบปฏิบัติการออกมาตอบโต้คู่แข่งค่อนข้างช้า และบาดาอาจจะไม่แตกต่างกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ อย่างลิโม (LiMo) ที่โทรศัพท์บางรุ่นของซัมซุงใช้อยู่ หรือซิมเบียน (Symbian) ของโนเกีย


นอกจากโทรศัพท์มือถือแล้ว ซัมซุงยังเป็นผู้ผลิตชิพหน่วยความจำและทีวีจอแบนรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งโฮซู ลี กล่าวว่า “ตลาดโลกเป็นตลาดที่ใหญ่ แต่เราได้รับประโยชน์จากตลาดต่างๆ ที่เราแข่งขันอยู่ เช่นทีวี และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งทำให้เรามั่นใจกับแนวทางที่เราใช้ผลักดันสมาร์ทโฟนออกสู่ตลาดที่กว้างขึ้น”




ที่มา :: http://www.value.co.th/th/news/IT_news.htm